มีหลายโอกาสที่ผมได้คุยกับเพื่อน หรือแม้แต่คนรู้จัก หลายๆ คนในเรื่องการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารที่เรียกว่า "หุ้น" และก็บ่อยครั้งอีกเช่นกันที่ผู้คนเหล่านั้นเรียกตัวเองว่า แมลงเม่า ในตอนแรกผมก็ไม่ได้เอะใจอะไรหรอก แต่ว่าเมื่อคุยกันไปนานเข้า ทุกครั้งที่เขาเรียกตัวเองที่กระทำการใดๆ เกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น ก็จะใช้คำว่า ฉันเป็นแมลงเม่า หรือ ผมเป็นแมลงเม่า อยู่ตลอดเวลา ทำให้ผมอดที่จะต้องตอบในสิ่งที่ตัวเองคิดไม่ได้เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับสมองของคนเรา ว่าเรื่องของ "คำพูด" ที่ตัวเราพูดกับตัวเราเอง และเชื่อว่าเราเป็นอย่างไรนั้น มันมีอิทธิพลกับชีวิตของเรา ทำให้เราเป็นอย่างนั้นๆ ไปจริงๆ ได้
พูดสั้นๆ ก็คือ ถ้าเราคิดว่า เราเป็นอะไร เราก็เป็นอย่างนั้นล่ะครับ จริงๆ แล้วคนที่พูด อาจจะคิดว่าเป็นการพูดเล่นๆ แต่.. เมื่อเราบอกตัวเราเองว่า เป็นแมลงเม่าๆ ๆ ๆ ซ้ำๆ อยู่อย่างนี้ทุกๆ วัน เราก็จะทำตัวเป็นแมลงเม่า หรืออย่างน้อย ก็ไม่เห็นจะมีข้อจำเป็นอะไรที่จะทำตัวให้ต่างจากเดิม หรือกลายเป็น "เซียน" หุ้นไปได้
แต่หากในทางตรงกันข้าม ถ้าเราบอกตัวเองว่าเราเป็นนักลงทุนนะ เราลงทุนด้วยวิธีที่ถูกต้อง หาวิธีที่ทำให้ไม่เครียดได้ เรารู้วิธีการลงทุน เราฉลาดในการลงทุน ในระยะยาวแล้วเราจะประสบความสำเร็จ เราทำตัวไม่ให้ใครว่าเราเป็นแมลงเม่า ฯลฯ ถ้าเราบอกตัวเราเองอย่างนี้ทุกวันๆ แล้ว จิตใต้สำนึกของเราก็จะพยายามทำทุกวิถีทางให้เราเป็นนักลงทุนที่มีแนวคิด มีสติ มีวิธีการในการลงทุน พยายามหาวิธีทำแบบเดียวกันกับผู้ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนเขาทำกัน เมื่อเราบอกแบบนี้ ทุกๆ วัน สุดท้ายเราจะไม่สามารถยอมรับการทำตัวเป็น แมลงเม่า ในตลาดหุ้นได้อีกต่อไป และต้องหาวิธีจนได้ ในการที่จะเป็นนักลงทุนที่ฉลาด มีความสามารถจนได้
ข้อเขียนสั้นๆ นี้ อาจจะไม่ถูกใจใครบางท่าน แต่ก็ด้วยความห่วงใยโดยแท้จริง และคงไม่สามารถรวมไปถึง เซียนหุ้นแบบเหนือเซียน ที่สามารถได้กำไรจากการเก็งกำไรทุกครั้ง หรือแทบจะทุกครั้งไป เพราะว่าผู้ที่จัดอยู่ในประเภทนั้น ก็คงไม่ได้ถูกเรียกว่าแมลงเม่าอีกต่อไป แต่เป็นพ่อค้าหุ้นตัวยงนะครับ ซึ่งในบางวินาที ผมเองยังอิจฉาเลยจริงๆ
Update บทความวันนี้
คุยกันต่อในเรื่อง "งบดุล" นะครับ
คลิ๊กที่ "การลงทุนโดยพิจารณามูลค่า
ของบริษัท(Value Investment)" ทางด้านขวามือครับ
