หลังจากที่หยุดยาวกันมาหลายวัน หลายๆ ท่านคงได้ไปพักผ่อน ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ผมเคยดูละครเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระเกจิฯ ชื่อดังท่านหนึ่ง (ขออภัยจำชื่อท่านไม่ได้จริงๆ) แต่เรื่องคือ พระพี่เลี้ยงของพระเกจิฯ รูปนั้นสมัยที่ยังเป็นพระใหม่ ได้กล่าวว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เราปฏิบัติของสามอย่าง คือ
(1)ทำความดีละเว้นความชั่ว
(2)มีใจคิดดีต่อผู้อื่น และ
(3)ทำจิตใจให้ผองแผ้วสดใส
ผมเองก็คิดว่า สิ่งทั้งสามอย่างนี้ เป็นที่สุดของความสุขของชีวิตคนแล้ว ส่วนจะทำได้อย่างไรนั้น ก็ด้วยอาศัยสิ่งอื่นๆ ทั้งมวลที่ท่านทรงตรัสรู้และถ่ายทอดพระธรรมมายังพวกเราผ่านหมู่มวลพระสงฆ์ ย้อนคิดดูดีๆ แล้ว ธรรมะกับการลงทุน ก็น่าจะไปด้วยกันได้นะ เช่นเมื่อเราขายหุ้นไปแล้ว และราคาเพิ่มขึ้นอีก (เรียกว่าขายหมู หรือปล่อยเสือ นั่นแหละ) เราก็จะต้องยินดีกับคนที่ซื้อไปแล้วได้กำไร (มุฑิตา) และเราก็ต้องอุเบกขา กับตัวเองด้วย ส่วนผม ไม่ค่อยซื้อหุ้นที่เกี่ยวกับชีวิต ก็เป็นความคิดจำเพาะตัวเรื่องเมตตาต่อสัตว์ร่วมโลก หรืออะไรก็แล้วแต่ล่ะครับ อันนี้เป็นลักษณะจำเพาะส่วนตัว
ปิดตลาดกันไปแล้ววันนี้ ด้วยการขึ้นของดัชนี 0.1 จุด นับว่าปู่เราเหนียวมาก ขณะที่รอบๆ บ้านทั้ง Hang Seng และ Straits Times ก็ออกอาการไม่ดีนัก แต่เมื่อดูการซื้อขายแล้ว มีลักษณะเหมือน "ไม่กล้าลง" โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้เก็บหุ้นที่นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อยในประเทศเป็นผู้ขายสุทธิออกมากว่า 3299.40 ล้านบาท โดยมีหลักทรัพย์ที่มีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น/คงที่/ลดลง เป็นจำนวน 191/145/197 หลักทรัพย์ โดยกลุ่มหลักทรัพย์, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มสถาบันการเงิน ปรับตัวดีขึ้น และกลุ่มสื่อสาร, กลุ่มพลังงาน มีดัชนีโดยรวมลดลง
และก็เป็นไปอย่างที่ผมคาดเดาไว้เมื่อวานนี้ว่า ผมม่สงสัยว่าต่างชาติจะซื้อหรือไม่ (เพราะคาดว่าซื้ออยู่แล้ว) แต่ไม่คิดว่าสถาบันจะผสมโรงขายกับนักลงทุนรายย่อยด้วยนี่สิ ไว้มดูพรุ่งนี้กันต่อครับ
บทความวันนี้ (21 ก.พ. 54)
คุยกันเรื่อง การวิเคราะห์เชิงตัวเลข กันต่อ
คลิ๊กที่ "การลงทุนโดยพิจารณามูลค่าของบริษัท(Value Investment)" ทางด้านขวามือครับ