วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556

สังสรรค์ VI ไตรมาส4/2555

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ได้รับเกียรติจากทางสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ชวนไปคุยให้กับเพื่อนๆ นักลงทุนรุ่นใหม่และรุ่นไม่ใหม่ได้ฟังในเรื่องหลักการลงทุนส่วนตัวและมุมมองของตลาดในเวลานี้ (ดัชนีเกือบแตะ 1,600 จุด) นับว่าเป็นเกียรติและต้องขอบคุณทางสมาคมฯ ด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

เท่าที่สังเกตในงาน มีนักลงทุนรุ่นใหม่ไฟแรงจำนวนมาก ซึ่งจุดนี้เป็นเรื่องที่ดี เพราะคนเหล่านี้ยังอยู่ในวัยทำงาน เรียกว่ายัง productive หรือมีผลิตผลอยู่ ความสามารถในการรับความเสี่ยงสูง ยังมีสุขภาพที่ดี มีการเรียนรู้ที่สูง และเริ่มต้นได้เร็วโดยไม่รอเวลาของชีวิตให้ผ่านไป ความรู้ ความชำนาญ และความขยันนี้เองที่ผมมองว่าเป็นจุดเริ่มของความสำเร็จทั้งปวง

คำถามสำคัญในงานที่เราได้คุยกันก็คือ สภาพตลาดตอนนี้เป็นอย่างไร ในทรรศนะส่วนตัวของผมก็คือค่อนข้างต้องระมัดระวัง คำว่าระวังนี้คือให้ดูว่าหุ้นที่เราถืออยู่นั้น มีความผิดปกติมากเกินไปหรือไม่อย่างไร ราคาขึ้นมามากเกินกว่าผลตอบแทนหรือไม่ (ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงของบริษัทนั้น, และการเติบโตด้วย) หากเราคิดว่ามันแพงเกินไป หรือมีลู่ทางอื่นที่ผู้ที่มีเงินมากอาจจะไปลงทุนมากกว่า/ดีกว่า เราย่อมต้องระวังเป็นพิเศษกับหุ้นตัวนั้น ผลตอบแทนที่กล่าวถึงนี้ก็คือ ปันผล, อัตรากำไรของบริษัทที่จะเกิดขึ้นในอนาคต, โอกาสในการลงทุนของบริษัทที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นต้น

อีกหนึ่งคำถามสำคัญก็คือ มือใหม่ๆ ที่จะเข้าตลาดตอนนี้ จะต้องทำอย่างไร ในทรรศนะส่วนตัวของผมที่ได้ตอบไปกับเพื่อนๆ ก็คือ "ต้องระวัง แต่ถ้าหากอยากทดลองซื้อขายหุ้นจริงๆ ก็ทำเลย" แต่ต้องทำในหุ้นที่ตัวเองได้ทดลองศึกษามาแล้วเป็นอย่างดี ว่ากำไรเท่าไร ผู้บริหารเป็นอย่างไร อดีตเป็นอย่างไร อนาคตน่าจะเป็นอย่างไร ระดับราคาและสภาพคล่องเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร และต้องประเมินความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นแล้วว่า ถ้าเกิดความเสียหาย เรารับการขาดทุนได้เท่าไร ต้องวางแผนกลยุทธ์ให้จบตั้งแต่ก่อนซื้อว่า ถ้าราคาเปลี่ยนในทางขึ้น จะทำอย่างไร (ถือ ซื้อเพิ่ม หรือ ขาย) และในทางกลับกันก็เช่นเดียวกัน จะขายตัดขาดทุนเท่าไร ขายทั้งหมดไหม หรือแบ่งขาย และจะซื้อกลับหรือไม่ ที่ราคาเท่าไร จำนวนเท่าไร เป็นต้น

การลงทุนก็เหมือนกับการทำงานอื่นทั่วไป ต้องอาศัยทั้งความรู้, ความชำนาญ, การวางแผน, การแก้ปัญหา, การมีไหวพริบบ้าง, และจิตใจที่มุ่งมั่นแน่วแน่ (แต่ไม่ได้หมายถึงความรั้นนะครับ), การรู้ว่าตัวเราเองเป็นอย่างไร มีสภาพแวดล้อมอย่างไร เหมาะในการลงทุนอย่างไรที่จะทำให้เราสบายใจ ซึ่งเรียกรวมๆ ว่าเป็นผู้มี "ฝีมือ" โดย โชค อาจจะช่วยเราได้บ้างในบางครั้ง แต่ฝีมือเท่านั้นที่เป็นหลักที่จะทำให้เรารอดจากภัยและประสบความสำเร็จในที่สุด