ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากในสองสามวันนี้นะครับ (21-25 ม.ค. 2554) จะด้วยสาเหตุอะไร เราคงตอบแบบกำปั้นทุบดินได้ว่า เพราะว่ามีคนอยากขายมากกว่ามีคนอยากซื้อ และหากคนอยากขาย เป็นคนที่ซื้อหุ้นมาที่ราคาต่ำ และถือหุ้นอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อต้องการขายออกมาเป็นจำนวนมากๆ ก็ย่อมจะมีผู้มารับซื้อไว้ไม่ได้ หรือไม่ทัน ย่อมเกิดการปรับตัวลดลงอย่างมากของราคาหุ้นต่างๆ การที่คนอยากขายนี้ในเวลาเช่นนี้ ก็ไม่น่าจะเป็นเพราะว่าบริษัทต่างๆ มีปัญหา เพียงแต่เขาอาจจะมีเหตุผลอื่นที่เราไม่สามารถหยั่งทราบได้ หรืออาจะทำเพียงแค่ตามตำราหรือคำพูดในการเก็งกำไรง่ายๆ แค่ sell on fact (ขายเมื่อข่าวเป็นจริง คือเมื่อผลประกอบการออกมาดี) หรือต้องการโยกย้ายเงินไปลงทุนอย่างอื่น ที่อื่น ก็เป็นได้เช่นกัน
ในยามเช่นนี้ หุ้นเล็กหุ้นน้อย หุ้นของบริษัทหลายๆ บริษัทที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการซื้อหรือขายของ กองทุนต่างๆ พาลถูกเทขายออกมาด้วยเป็นจำนวนไม่น้อย ทั้งๆ ที่บริษัทเหล่านั้นมีผลประกอบการที่ดี และยังคงมีการเติบโตต่อเนื่องได้อีกในหลายๆ ปีต่อจากนี้ แต่เรื่องอย่างนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาของหุ้น บางครั้งก็ด้วยเหตุผลง่ายว่า ขายก่อนแล้วลงไปซื้อที่ราคาต่ำกว่า ก็มี
ดังนั้นในช่วงเวลาแบบนี้ ถ้านักลงทุนสามารถตีค่า ประเมินราคาที่เหมาะสมของหุ้นได้ ก็จะสามารถแยกออกได้ว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมานี้ ต่ำเกินพื้นฐานของมันไปมากหรือเปล่า หุ้นตัวไหนถูก ตัวไหนแพง และนี่คือหน้าที่และงานอย่างหนึ่งของนักลงทุนที่จะต้องทำการบ้านมาก่อน เมื่อถึงเวลา ก็จะสามารถวางแผนต่อไปเพื่อต้อนฝูงห่านเข้าพอร์ตได้
Update บทความวันนี้ (4 ก.พ. 54)
เรื่องพื้นฐานการลงทุนแนวคุณค่าเรื่อง "เกราะป้องกันธุรกิจ"
คลิ๊กที่ "การลงทุนโดยพิจารณามูลค่าของบริษัท (Value Investment)" ทางด้านขวามือครับ