วันนี้วันดีนะครับ วันอาทิตย์อากาศสดใส เปิดสินธรมีเพื่อนสมาชิกถามเรื่องของการลงทุน ว่าจะต้องเตรียมการอย่างไร คำถามนั้นถามกว้างๆ ก็ตอบแบบกว้าง นะครับ (ไม่ตอบแบบ กว้างๆ เพราะเดี๋ยวจะกว้างไปกันใหญ่) ก็คือการลงทุน โดยทั่วไปต้อง 1) มีเงินเหลือ
เงินส่วนที่เหลือนี้ หมายถึงเงินที่ไม่ใช้แล้ว นั่นหมายถึงว่าได้กันเงินส่วนที่จะต้องใช้เพื่อชีวิตประจำวันและยามฉุกเฉินไว้เรียบร้อยแล้ว พูดกันง่ายๆ คือ สามารถมีเงินอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ได้สัก 2 ปีโดยที่ไม่ต้องทำงานหรือทำอะไร เงินที่เหลือจากที่กันไว้แล้วนี่ เรียกว่าเงินส่วนเหลือ
2) มีความรู้
เงิน ไม่ได้ลอยมาในอากาศ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าใครๆ จะมีความมั่นคงทางการเงิน ไม่ได้ หากแต่การที่จะสร้างฐานะให้มั่นคงได้นั้น จะต้องอาศัยความพยายาม และความรู้ ที่เป็นฐานแห่งการกระทำ ว่าอะไรมีความรู้ที่สามารถแยกข่าวสารออกจากกันได้ว่า อะไรเป็นความจริงอะไรเป็นความเห็น พื้นฐานนิสัยคือ อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ รู้จักประเมินความเสียงและรางวัลที่ได้ (risk and rewards) ว่าอะไรควรเสี่ยง อะไรไม่ควรเสี่ยง ความเสี่ยงกับสิ่งที่ได้นั้นสมควรกันหรือไม่ เป็นต้น
3) มีประสบการณ์
เป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่สามารถสอนกันได้ยกเว้นทำเองด้วยตัวเอง แบบนี้เรียกว่าประสบการณ์ คือทำได้ ทำเป็น มีทักษะ บางกรณีจะต้องมีการตอบสนองอย่างเร็วด้วยธรรมชาติที่ถูกต้อง เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์บางอย่าง การตอบสนองที่ไม่ถูกต้องจะนำพาให้เสียหายในการลงทุน ในขณะเดียวกันความสามารถในการตอบสนองที่ถูกต้อง ก็พาให้สามารถทำเงินจากการลงทุนได้ไม่ยาก
และสุดท้าย
4) ความตั้งใจจริง
การที่คนเราจะทำอะไรได้ดี และมีโอกาสสำเร็จได้มาก จะต้องอยู่ที่ความรักความชอบ ขยันหมั่นเพียร ใฝ่หาความรู้ในสิ่งนั้น นั่นคือมี ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา นั่นเอง แต่ในเมื่อสิ่งที่ใฝ่รู้นี้ เกี่ยวพันอย่างมากกับเรื่องของเงินทอง ที่พันอยู่กับ กิเลส และความโลภ นักลงทุนที่ดีจะต้องรู้จักกำหนดความสมดุลขององสองอย่างนี้ คือความรักชอบ และความโลภ อย่าให้ความโลภนั้นเป็นมารดาแห่งความรักชอบ มิเช่นนั้นแล้ว ความโลภนั่นเองจะนำพาให้ตัวเองต้องอับจนไม่วันใดก็วันหนึ่ง
นี่ก็เป็นสิ่งที่จะต้องเตรียมตัวทั้งหมด ในการเป็นนักลงทุนที่ดีหวังว่าจะพอช่วยได้บ้างนะครับ