หลายๆ ครั้งที่มีการคุยกันในเรื่องของหุ้นที่เรียกว่าหุ้นสำหรับนักลงทุนแบบเน้นมูลค่าของหุ้น หรือที่เรียกว่าหุ้นวีไอ (VI: Value Investment) ซึ่งก็มักมีการหยิบยกหุ้นในหลายๆ กลุ่มอุตสาหกรรม และหลายๆ พฤติกรรม เช่นหุ้นอาหาร เหล็ก สินค้าเกษตร ไอซีที เทคโนโลยี ก่อสร้าง และหลายๆ ครั้งเราก็จะได้ยินหุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า "กลุ่มโภคภัณฑ์" ขึ้นมาพูดคุยกันด้วย
โดยหุ้นกลุ่มสุดท้ายที่เรียกว่ากลุ่มโภคภัณฑ์นี้ จริงๆ ก็ไม่ได้มีลักษณะเป็นอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งเป็นพิเศษโดยเฉพาะ แต่เป็นกลุ่มที่มีลักษณะของสินค้าเป็นโภคภัณฑ์ ซึ่งมักจะไม่ค่อยมีความแตกต่างในตัวสินค้าเองระหว่างผู้ผลิตหลายๆ ราย นอกจากนั้นสินค้าประเภทนี้ยังมีอุปสงค์ (demand) เปลี่ยนแปลงไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจอื่นๆ อีก เรียกว่าหากเศรษฐกิจบางอย่างดี สินค้าโภคภัณฑ์มีความต้องการสูง ราคาก็จะพุ่งขึ้นสูง บรรดาผู้ผลิต ผู้ค้า ก็จะได้กำไรมาก แต่ในทางกลับกัน เมื่อเศรษฐกิจซบเซา ความต้องการสินค้าต่ำ บรรดาผู้ผลิตไล่ไปจนถึงผุ้ค้าก็ได้กำไรน้อยลง บางรายถึงกับเอาตัวแทบไม่รอดก็มี
คราวนี้ ก็มาถึงเรื่องของการลงทุนที่ว่า หุ้นแบบวัฏจักรอย่างนี้ สามารถเป็นหุ้นแบบ VI หรือหุ้นที่นักลงทุนแบบ VI เลือกซื้อได้หรือไม่ ซึ่งความคิดเห็นก็แตกแขนงกันออกไป แต่ในความเห็นส่วนตัวของผมแล้ว หุ้นไหนๆ ก็เป็นหุ้นแบบ VI ได้ ถ้ามัน "ถูกเกินเหตุ" นั่นคิดนายตลาดเกิดความกลัว ไม่ให้ค่ามัน หรือแม้แต่แทบจะไม่ให้ค่ามันเลย เป็นต้น ถ้าพูดกันง่ายๆ แบบนี้อาจจะไม่ค่อยเห็นภาพเท่าไรนัก ลองมาสมมติตัวเลขกันสักหน่อยดีกว่า
สมมติมีหุ้นตัวหนึ่ง ที่ว่ากันว่าเป็นหุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์ (และมันก็เป็นจริงๆ นั่นแหละ) ที่มีกำไรขึ้นๆ ลงๆ ระหว่าง 1 กับ 5 บาท วนไปวนมาอยู่อย่างนี้หลายปี ถ้าวันหนึ่งเราไปเห็นราคาหุ้นในกระดานมันอยู่เพียง 2-3 บาท นักลงทุนที่มองเห็นก็อาจจะซื้อเพื่อการลงทุนไว้ได้ เพราะแม้กำไรมันจะแกว่งมากไปมา แต่ราคาหุ้นมันต่ำเกินไปจริงๆ เพราะลงทุนเพียง 2-3 ปีก็คุ้มแล้ว แบบนี้ก็เรียกได้ว่า "Value ของมันเกินราคา" เพราะแม้ว่า คุณค่าทางด้านความโดดเด่นของสินค้ามันไม่ได้ดีเลิศเลออะไร แต่ราคามันต่ำมากเกินเหตุ แบบนี้ก็ทำให้คุณค่าเกินราคาได้เช่นกัน (เปรียบเทียบให้เห็นแบบเกินเหตุสักหน่อยก็คือ ถ้ามีคนให้หุ้นที่เป็นวัฏจักร ที่ทำกำไร 1 บาทต่อปีกับท่านในราคาหุ้นละ 50 สตางค์ ทำไมจะไม่ซื้อล่ะ จริงไหม)
อย่างไรก็ตาม การจะซื้อหุ้นต้องพิจารณาคุณสมบัติอื่นของบริษัทด้วย เช่นหนี้น้อย, การหมุนเวียนเงินสดไม่ติดขัด มีกำลังสำรองมาก, ผบห. ไม่โกง, สินค้า/บริการ มีความได้เปรียบคู่แข่งบ้าง (เป็นตัวเลือกแรกๆ หน่อย) แม้ว่ามันจะขึ้นๆ ลงๆ ก็ตามทีเถิด โดยคงต้องยกเว้นในเรื่องของ profit margin และ ยอดขาย ที่คงขึ้นๆ ลงไป ไปตามวัฏจักรที่เป็นลักษณะของหุ้นประเภทนี้ครับ
ดังนั้นในความเห็นส่วนตัวของผม หุ้นไหนๆ ก็เป็นอะไรก็ได้ ขึ้นกับว่าเราซื้อมันที่ราคาไหนต่างหาก บางที
เราอาจจะไม่ต้องหาหุ้นเลอเลิศ แต่เป็นบริษัทที่ดีพอควร แต่หุ้นมันราคาถูกเกินเหตุ ก็รวยได้เหมือนกัน ซึ่งในแง่นี้อาจจะ ตรงกันข้ามกับการลงทุนใน Growth Stock ที่หวังในเรื่องของ Performance ของบริษัทที่ดีมาก เป็นหลัก ซึ่งถ้าจะว่ากันไปแล้วเรามักจะ "เห็นช้ากว่าคนอื่น" ในขณะที่หุ้นวัฏจักร ก็ทำให้เรารวยได้เหมือนกันถ้าสามารถประเมินมูลค่าและความเสี่ยงได้ถูกต้อง และ "กล้า (อย่างมีเหตุผล)" ในขณะที่คนอื่นกลัว (เพราะไม่กล้า) ครับ