ขึ้นหัวข้อแบบนี้ เพื่อนๆ อย่าเข้าใจผิดว่าทำไมจึงได้ยกเอาอาชีพบางอย่างขึ้นเป็นตัวอย่างนะครับ จริงๆ แล้วไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษเลยนอกไปจากยกเอาคำพูดปกติที่คนทั่วๆ ไปมักจะยกขึ้นกล่าวเทียบเท่านั้นเอง เพราะอย่างไรแล้วอาชีพทุกอย่างที่สุจริต สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างประโยชน์ให้กับผู้อื่นไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ก็ยังคงเป็นอาชีพที่มีเกียรติและควรได้รับความชื่นชมทั้งสิ้น
ถ้าเราดูทุกวันนี้ ที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ SET ได้ทะยานขึ้นจาก 600-700 จุดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มายืนอยู่เหนือ 1,500 จุดได้นั้น ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็มาจากแรงซื้อที่มาจากเงินทุนทั้งภายในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต่างๆ กองทุนจากต่างประเทศ กองทุนใหญ่ๆ ในประเทศที่มีนักลงทุนรายย่อยเป็นผู้ซื้อหน่วยลงทุน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด สิ่งที่เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ในวันนี้ก็คือ เราได้เห็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของเราอยู่ที่ระดับ 1,500 จุดได้อย่างมั่นคง (แม้จะมีการปรับฐานบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา)
ถ้าย้อนไปหลายสิบปีที่ผ่านมา เมื่อหุ้นต่างๆ พากันขึ้นมามากๆ จนกระทั่งคนทั่วไปที่ไม่ได้มีความรู้ด้านการเงิน หรือแม้แต่ไม่มีเงินเป็นของตัวเอง ได้พยายามหาเงินเข้ามาซื้อหุ้นเพื่อการเก็งกำไร โดยเก็งแต่กำไรแต่ไม่ได้เก็งขาดทุน (เก็งกำไร ก็ต้องเก็งขาดทุนด้วยนะครับ) เรียกกันได้ว่ามากันทุกสาขาอาชีพ ไม่เว้นแม้กระทั่งคนขับแท้กซี่ และไม่นานหลังจากนั้นตลาดหลักทรัพย์ก็ล้มครืนแบบไม่เป็นท่า เนื่องจากพื้นฐานการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนไม่ได้สูงพอที่จะทำให้หุ้นของบริษัทเหล่านั้นมีราคาสูงขนาดนั้นได้ เมื่อแรงเก็งกำไรหายไป ความเสียหายของผู้คนก็ติดตามมา
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคหลายสิบปีที่ผ่านมา ยุคที่อินเตอร์เน็ต หนังสือ ชมรม เว็บบอร์ด และความรู้เรื่องการเงินและการลงทุนไม่ได้แพร่หลายกันอยู่อย่างเช่นทุกวันนี้ การเข้าซื้อเก็งกำไรของคนขายก๋วยเตี๋ยว คนขับแท็กซี่ จึงเป็นการเข้าซื้อของผู้ที่ไม่ได้มีความรู้ด้านการเงินและการลงทุนอย่างแท้จริง แต่ในเมื่อแทบทุกคนสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ที่ลอยไปมาในอากาศได้อย่างเช่นอินเตอร์เน็ตแบบทุกวันนี้แล้ว คนที่เคยถูกมองว่าเป็นผู้ที่ไม่มีความรู้เอาเลยในด้านการเงิน การลงทุน ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เขาเป็นเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา การเอาสิ่งเก่าๆ คำพูดเดิมๆ ยกขึ้นมาแล้วเชื่อโดยทันทีนั้น คงไม่ใช่สิ่งที่นักลงทุนที่ดีพึงกระทำ แต่อย่างไรก็ดีในทัศนะส่วนตัวแล้ว คำเตือนเป็นสิ่งที่ดีเพียงแต่เราต้องพิจารณาเพิ่มเติมในสิ่งที่เป็นในปัจจุบัน และสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตเป็นหลัก คือมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่วนเวียนอยู่แต่กับอดีตจนลืมสิ่งที่เป็นในวันนี้ไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอดีตนั้นไม่สำคัญ อดีตควรถูกนำมาพิจารณาเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเมื่อสภาพการณ์หรือพื้นฐานยังไม่เปลี่ยนไป
และเฉพาะอย่างยิ่งในบทความนี้ หากมีผู้ที่ถูกพาดพิงถึง ก็คือผู้ที่ขับแท็กซี่เข้ามาอ่าน คือเข้ามาอ่านเว็บไซต์ เว็บบอร์ดต่างๆ ด้านการลงทุน ตลอดจนบล็อกนี้ที่ผมก็พยายามรวบบรวมเอาสิ่งเป็นประโยชน์ที่จะป้องกันตัวเพื่อนๆ ผู้อ่านไม่ให้เสียหาย (มากเกินไป) ด้านการลงทุนแล้ว นั่นแสดงว่าผู้ขับแท็กซี่นั้นต้องได้ความรู้เพิ่มแต่ตัวเองไปมาก และการที่เขาจะเลือกซื้อหุ้นดีๆ ที่มีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยที่สูง เพื่อการลดความเสี่ยงของตัวเองนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และก็คงไม่เป็นสัญญาณบอกว่าตลาดจะล่มในเร็ววันแต่อย่างใด จริงไหมครับ