ความแตกต่างที่สำคัญของบริษัทสองแบบนี้ก็คือ บริษัทแรกมี "หนี้ที่ดี" ในขณะที่บริษัทที่สองมี "หนี้ที่เลว" บางบริษัทหรือบางคนอาจจะคิดว่าตัวเองมีแต่หนี้ที่ดี กำลังสร้างหนี้ที่ดี แต่เปล่าเลย เพราะเขากำลังสร้างหนี้ที่เลวอยู่ต่างหาก คือเอาหนี้เลวมาเป็นส่วนหนี่งของทรัพย์สิน หนี้เลวจะไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่ามูลค่าหนี้นั้นบวกกับรายจ่ายของดอกเบี้ย คือไม่ได้ก่อประโยชน์อะไร มีแต่จะดึงเงินที่น่าจะมีพละกำลังในการสร้างผลตอบแทนต่อไป ออกจากระบบทำเงินโดยต้องจ่ายออกไปเป็นดอกเบี้ยที่ไม่สมควร
ในทางตรงกันข้าม หนี้ที่ดีหรือการใช้เงินของคนอื่นนั้น มีข้อดีคือเป็นการซื้อเวลาได้ นั่นคือแทนที่จะต้องค่อยๆ ทำงานไป ทำกำไรสะสมไปเรืิ่อยๆ เพื่อได้เงินจำนวนมากขึ้นๆ มาทำงานทำธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น แต่กลับเลือกใช้เงินคนอื่น (ที่มีจำนวนมากกว่าเงินของเรา) มาทำงานได้เลยทันที แบบนี้ เรียกว่าเป็นการซื้อเวลา เพื่อร่นให้เร็วขึ้นนั่นเอง ไม่แน่ที่ว่า บางทีธุรกิจอาจจะได้ช่องทางที่ดีในการขยายตัว หรือรายการสั่งซื้อที่ดี หากมัวแต่ใช้เงินของตัวเองทั้งหมดมาทำงาน แบบนี้คงช้าไม่ทันกิน เสียโอกาสทางธุรกิจไป ซ้ำร้ายคืออาจจะเสียให้กับคู่แข่งที่พร้อมที่จะใช้เงินของคนอื่นมาทำงานเสียอีก
ในคราวหน้า เราจะคุยเรื่องหนี้สินกันต่อ คอยติดตามนะครับ