วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

ประโยชน์ของหนี้สิน ตอนที่ 1

โดยทั่วไปแล้วเมื่อเราพูดถึงคำว่า "หนี้" เรามักจะไม่ค่อยมีความสุขมากเท่าไรนัก หลายๆ คนมักเคยชินกับคำว่า "ความไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ" ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องทั้งจริงและไม่จริงผสมกันอยู่ เนื่องจากสำหรับคนธรรมดาซึ่งมักจะไม่ค่อยมีความถนัดหรือความสามารถในการนำเงินจากการกู้หนี้ยืมสินมาทำให้เกิดประโยชน์แล้ว ความไม่มีหนี้ก็เป็นลาภอันประเสริฐจริงๆ นั่นล่ะ เนื่องจากสิ่งที่มาพร้อมก้บหนี้ก็คือดอกเบี้ย ที่เราจะต้องชดใช้เพิ่มเติมให้กับเจ้าหนี้เพิ่มเติมเข้าไปกับเงินต้นที่เป็นหนี้นั้น แต่หาก "หนี้" เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับธุรกิจล่ะ? มันจะเป็นแบบเดียวกันหรือเปล่า ประเด็นนี้เป็นเรื่ิองที่น่าสนใจ เพราะเห็นว่าบางบริษัทมีหนี้มากแต่ก็เจริญเติบโตได้ดี ในขณะที่บางบริษัทก็ถึงกับต้องล่มสลายไปก็เพราะการมีหนี้ที่มากเกินไป

ความแตกต่างที่สำคัญของบริษัทสองแบบนี้ก็คือ บริษัทแรกมี "หนี้ที่ดี" ในขณะที่บริษัทที่สองมี "หนี้ที่เลว" บางบริษัทหรือบางคนอาจจะคิดว่าตัวเองมีแต่หนี้ที่ดี กำลังสร้างหนี้ที่ดี แต่เปล่าเลย เพราะเขากำลังสร้างหนี้ที่เลวอยู่ต่างหาก คือเอาหนี้เลวมาเป็นส่วนหนี่งของทรัพย์สิน หนี้เลวจะไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่ามูลค่าหนี้นั้นบวกกับรายจ่ายของดอกเบี้ย คือไม่ได้ก่อประโยชน์อะไร มีแต่จะดึงเงินที่น่าจะมีพละกำลังในการสร้างผลตอบแทนต่อไป ออกจากระบบทำเงินโดยต้องจ่ายออกไปเป็นดอกเบี้ยที่ไม่สมควร

ในทางตรงกันข้าม หนี้ที่ดีหรือการใช้เงินของคนอื่นนั้น มีข้อดีคือเป็นการซื้อเวลาได้ นั่นคือแทนที่จะต้องค่อยๆ ทำงานไป ทำกำไรสะสมไปเรืิ่อยๆ เพื่อได้เงินจำนวนมากขึ้นๆ มาทำงานทำธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น แต่กลับเลือกใช้เงินคนอื่น (ที่มีจำนวนมากกว่าเงินของเรา) มาทำงานได้เลยทันที แบบนี้ เรียกว่าเป็นการซื้อเวลา เพื่อร่นให้เร็วขึ้นนั่นเอง ไม่แน่ที่ว่า บางทีธุรกิจอาจจะได้ช่องทางที่ดีในการขยายตัว หรือรายการสั่งซื้อที่ดี หากมัวแต่ใช้เงินของตัวเองทั้งหมดมาทำงาน แบบนี้คงช้าไม่ทันกิน เสียโอกาสทางธุรกิจไป ซ้ำร้ายคืออาจจะเสียให้กับคู่แข่งที่พร้อมที่จะใช้เงินของคนอื่นมาทำงานเสียอีก

ในคราวหน้า เราจะคุยเรื่องหนี้สินกันต่อ คอยติดตามนะครับ