วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

งานการลงทุน



ถ้าพูดถึงงานชนิดต่างๆ ล้วนต้องอาศัยความรู้และความชำนาญในด้านนั้นๆ ทั้งสิ้น ถ้าเราดูดีๆ จะเห็นว่าในกิจการหนึ่งๆ นั้น อาจจะต้องอาศัยความรู้และความชำนาญหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต ด้านการตลาด ด้านการเงิน และที่สำคัญคือ รายละเอียดในความรู้ความชำนาญแต่ละอย่างที่กล่าวมานี้ จะเปลี่ยนไปเสมอเมื่อขนาด, ลูกค้า, สินต้า-บริการ เปลี่ยนแปลงไป โดยส่วนมากแล้ว เมื่อขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะมีความซับซ้อนมากขึ้น (เช่น การทำร้านก๋วยเตี๋ยว กับร้านอาหารระดับห้าดาว ย่อมต้องการความชำนาญต่างกันมาก)

คราวนี้ ลองหันมาดูงานทางด้านการลงทุนที่ใช้เงินทำงานให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยผ่านตลาดหลักทรัพย์ จะเห็นว่ามีความแตกต่างกับการลงทุนในภาคธุรกิจอยู่หลายประการ เช่น

1) วิธีเดิม ไม่เปลี่ยนเมื่อสเกลเปลี่ยน การทำธุรกิจเงินแสน ล้าน นั้นอาจไม่ยากมาก แต่ถ้าเปสี่ยนเป็น สิบ ร้อย พันล้าน จะต้องเปลี่ยนวิธี ในขณะที่การลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์นั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนักลงทุนแบบเน้นมูลค่าของกิจการแล้ว วิธีการดูบริษัทและการลงทุนนั้นแทบจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย คือซื้อเมื่อราคาถูกเกินไปและขายเมื่อราคาแพงเกินไปอยู่เช่นเดิม

2) ความรับผิดชอบทางกฎหมายต่ำ ต่างจากการทำธุรกิจที่เมื่อขยายใหญ่ขึ้นก็ย่อมต้องมีความรับผิดชอบทางกฏหมายตามมาค่อนข้างมาก จริงอยู่ที่เราสามารถจัดการเพื่อลดความรับผิดชอบส่วนนี้ไปได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและสามารถทำได้ทันทีอย่างสบายใจนัก

3) สามารถเริ่มจากเงินน้อยๆ ได้ เพราะการซื้อหุ้นของบริษัทต่างๆ นั้นเราไม่จำเป็นต้องซื้อปริมาณมาก (ยกเว้นเป็นการตกลงในล้อตขนาดใหญ่ ซึ่งในระดับนักลงทุนธรรมดาก็คงไม่ได้ข้องเกี่ยวกับการตกลงลักษณะนั้นอยู่แล้ว) แต่ซื้อด้วยปริมาณตามกำลังเงินส่วนที่ไม่สร้างความเดือดร้อนของเรา

4) สเกลใหญ่หรือเล็ก ต้องการเวลาไม่ต่างกัน แต่ถ้าเป็นธุรกิจสเกลใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพิ่งเริ่มต้น จะต้องรอเวลาเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามมา

5) สามารถ diversify หรือกระจายการลงทุนได้ง่าย แม้จะไม่ใช่เป็น 10 อย่าง แต่การกระจายออก 3-4 อย่างย่อมดีกว่าการใช้เงินก้อนใหญ่ในการดำเนินกิจการเดียว

6) มีข้อจำกัดในการเลิกกิจการ (Exit barrier) ต่ำ นั่นหมายความว่าเมื่อต้องการเลิกเมื่อไรก็ทำได้ไม่ยาก และยังสามารถเลิกบางส่วน โดยการขายหุ้นบางส่วนหรือบางบริษัทออกไปก็ได้อีก ต่างจากกิจการจริงๆ หลายอย่างที่เมื่อต้องการเลิกก็เลิกได้ไม่ง่ายนัก

เราจึงสามารถเห็นได้ว่า งานด้านการลงทุนนั้นเป็นงานที่มีข้อดีหลายอย่างอยู่ในตัวเอง หากเราฝึกฝนจนชำนาญ หาช่องทางให้เหมาพกับตัวเอง ก็สามารถทำจากเล็กมากจนถึงใหญ่มากได้ไม่ยากเลย แต่อย่าลืมว่า หากตัวเรามีความรู้ความสามารถอื่นด้วย ก็เป็นความคิดที่ดีที่เราจะทำงานด้านอื่นไปด้วย เป็นการสร้างประโยชน์ตามกำลังที่ทำได้นะครับ