วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558

หุ้นขึ้นอย่ารีบขาย



ฟังไปฟังมาอาจจะละม้ายคล้ายคลึงกับสำนวนไทยที่ว่า น้ำขึ้นให้รีบตัก เสียอย่างนั้น แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราน่าจะทราบไว้บ้างหรือถ้าให้ดีกว่านั้นก็คือทำให้เป็นนิสัยเลยก็น่าจะดีเพราะในวันใดวันหนึ่งเราคงจะต้องพบเจอกับเรื่องแบบนี้เป็นแน่ 

จะว่าไปเรื่องนี้ก็เกิดจากการที่เพื่อนคนหนึ่งถามว่า สมมติว่าถ้าเราซื้อหุ้นของบริษัทหนึ่งมา และถ้าหุ้นตัวนั้นเราถือไว้เป็นเวลานานแล้ว ผลตอบแทนขึ้นไปหลายเปอร์เซ็นต์ แต่ค่า P/E เริ่มพุ่งขึ้นสูงเช่น 20 และ P/BV ประมาณ 4-5 เท่าแล้ว แบบนี้เราสมควรถือต่อไหม โดยบริษัทนี้ก็สามารถทำกำไรมาได้โดยตลอด ก็นับว่าเป็นคำถามที่ฟังดูง่ายและสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยเลยทีเดียว

จะว่าไปแล้ว ทุกครั้งที่เราจะซื้อเราก็ต้องคำนวณราคาที่เหมาะสมของหุ้นนั้นไว้ในใจแล้วว่าเป็นเท่าไร และเราก็คงซื้อเมื่อราคาในกระดานต่ำกว่าราคาที่เราคิดเอาไว้พอสมควร (มีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยเอาไว้) ไม่อย่างนั้นเราก็คงไม่ซื้อ หรือเข้าข่ายเป็นการเก็งกำไรไปนั่นเอง ในทำนองเดียวกันเมื่อเราต้องการขายหุ้น เราก็ต้องคำนวณราคาที่เหมาะสมใหม่ในปัจจุบันนั้นด้วยว่าเปลี่ยนไปจากเดิมตอนที่เราซื้อหรือไม่ เพราะเป็นไปได้มากที่เมื่อเวลาผ่านไป บริษัททำกิจการได้ดีขึ้นมาก จนพื้นฐานเปลี่ยนไปมาก คือมียอดขายมากขึ้น กำไรมากขึ้น รวมทั้งมีโครงการที่เล็งเห็นได้ว่ามีโอกาสสำเร็จสูงและทำให้กำไรจะเพิ่มต่อเนื่องอีกหลายปีและทำให้มูลค่าของบริษัทเพิ่มมากขึ้นไปอีกได้ ในกรณีอย่างนี้เราก็อาจจะถือไว้ต่อก็ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเราเจอการลงทุน (ในหุ้นตัว) อื่นที่ดีกว่าเราก็อาจจะขายก็ได้ (บางส่วนก็ได้ หรือทั้งหมดก็ได้อีก)

ดังนั้น ก่อนจะซื้อหรือจะขาย สุดท้ายก็หนีไม่พ้นที่จะต้องดูให้เป็นว่า "ราคาตอนนี้กับราคาที่เหมาะสมนั้นแตกต่างกันอย่างไร" นั่นเองครับ