วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

มือเก่าหัดขับพาเที่ยว แหลมผักเบี้ย



เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ผมมีเวลาว่างนิดหน่อย เลยถือโอกาสขับรถออกนอกเมืองไปดูธรรมชาติบ้าง ถือเป็นการพักสายตากับการทำงานประจำ การลงทุน รวมทั้งการซื้อขายเก็งกำไรนิดๆ หน่อยๆ ไปด้วยในตัว คราวนี้เดินทางไป จ.เพชรบุรี เหมือนเดิมแต่ม่งหน้าไปที่ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งอยู่ที่ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี  (ภาพบน: เมื่อเดินสุดทางไปยังทะเล มองกลับเข้ามายังพืนดินจะเห็นทิวหนาของป่าชายเลนรอรับอยู่)

เส้นทางเดินผ่านป่าชายเลนออกไปยังทะเล


เสน่ห์ของแหลมผักเบี้ยนี้นอกจากจะเป็นโครงการศึกษาวิจัยพัฒนาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีเส้นทางเพื่อศึกษาในเรื่องของระบบนิเวศป่าชายเลนที่มีทางเดินลัดเลาะเข้าไปยังป่าชายเลน เรียกว่าทะลุออกไปที่ทะเลเลยเชียว มีระยะทางประมาณ 850 เมตร ระหว่างทางก็จะได้บรรยากาศของป่าชายเลนที่มี ต้นโกงกางใบเล็ก ต้นโกงกางใบใหญ่ ซึ่งมีดอกและเมล็ดลักษณะพิเศษที่เมื่อร่วงหล่นลงกับพื้นจะปักลงบนเลนและพร้อมจะเติบโตได้ทันที ระหว่างทางที่เดินออกไปที่ริมทะเลก็จะพบสัตว์ชายเลนหลายชนิดเช่น ปู กุ้ง ปลาตีน แต่ที่น่าสนใจเห็นจะเป็น ปูก้ามดาบหยกฟ้า และ กุ้งดีดขัน โดยเฉพาะเจ้ากุ้งที่ว่านี้เราจะได้ยินเสียงของมันดีดก้ามทำให้เกิดเสียงคล้ายคนเอานิ้วดีดขันน้ำโลหะเป็นระยะๆ น่ารักดีเหมือนกันครับ

ปูก้ามดาบหยกฟ้า แม่-ลูก


นอกจากป่าชายเลนซึ่งถือเป็นสถานที่บำบัดน้ำเสียที่ดีที่สุด ก่อนที่น้ำนั้นจะไหลลงสู่่ทะเลที่ทอดยาวและหนากว่าหนึ่งกิโลเมตรแล้ว ยังมีบ่อน้ำที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำริจัดตั้งโครงการดังกล่าวเพื่อบำบัดน้ำเสีย โดยให้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ มีด้วยกัน 4 ระบบอีกคือ บ่อบำบัดน้ำเสีย ระบบพืชและหญ้ากรองน้ำเสีย (ใช้หญ้าธูปฤาษีเป็นผู้ดำเนินกลไกสำคัญนี้) ระบบพื้นที่ชุ่มน้ำเทียม และ ระบบแปลงพืชป่าชายเลน เรียกว่าได้มาศึกษาระบบนิเวศน์ไปด้วยในตัว

นอกจากนั้นในบริเวณนี้ยังมีนกนานาชนิด (ข้อนี้ผมชอบเป็นพิเศษ) ไม่ว่าจะเป็นนกเด้าดิน นกเด้าลม นกยางเปีย และนกอีกมากมายหลากหลายชนิด จนสถานที่แห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 10 สถานที่ดูนกที่ดีที่สุดของประเทศไทยครับ ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะว่าไม่มีใครกล้าไปยุ่ง จับ หรือทำอันตรายนกต่างๆ เหล่านี้ด้วย ทำให้อยู่อาศัยกันแบบสบายใจไม่ต้องกลัวใครมาทำร้าย ผมก็เลยถ่ายรูปนกมาฝากกันมากหน่อย

 


 
 

 
แถมอีกนิดหนึ่งว่า ไหนๆ ขับรถไปถึงแหลมผักเบี้ยแล้ว ก็เผื่อเวลาอีกสักนิดขับต่อไปอีกสิบกว่ากิโลเมตร ก็จะถึงหาดเจ้าสำราญ จะได้แวะชมหาดและทะเลได้อีกที่หนึ่งด้วยเลย อย่าลืมนะครับ ทำงานแล้ว หาเวลาพักผ่อนกันด้วย เพิ่มชีวิตชีวาให้กับตัวเอง จะได้มีแรงต่อสู้สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ต่อไปครับ