ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับบัตรเครดิตกันก่อนนะครับ บัตรเครดิต เป็นบริการที่สถาบันทางการเงินต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ธนาคารพาณิชย์ และผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-bank) ออกให้แก่ลูกค้า เพื่อใช้จ่ายแทนเงินสดเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการโดยยังไม่ต้องจ่ายเงินในทันที ณ ร้านค้าที่รับบัตร รวมถึงร้านค้าบนอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังสามารถใช้บัตรเครดิตเบิกถอนเงินสดจากเครื่อง ATM มาใช้ล่วงหน้าได้ และมีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ตามรายการส่งเสริมการขาย เช่น คะแนนสะสมเพื่อแลกของรางวัล ส่วนลดจากร้านค้า การผ่อนชำระสินค้าดอกเบี้ย 0 % เงินคืนจากการใช้จ่าย (cash back) ที่จอดรถ ห้องรับรองตามสถานที่ต่าง ๆ ความคุ้มครองเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ
ข้อดีบัตรเครดิต อย่างเช่น
• สะดวกในการทำธุรกรรมการเงินผ่าน IT. เช่นซื้อของ online. จองตั๋วเครื่องบิน
• มีโปรโมชั่น ส่วนลด แต้มแลก. ผ่อนชำระ 0%
• ใช้กรณีฉุกเฉินเจ็บป่วยกะทันหัน หรือจำเป็นต้องใช้เงินสด
ข้อเสียบัตรเครดิต อย่างเช่น
• ถ้าไม่ควบคุมการใช้เงินให้ดี อาจทำให้ดอกเบี้ยบานปลายได้ และถูกเก็บเบี้ยปรับ
• เมื่อบัตรเครดิตสูญหายหรือถูกขโมยไป อาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพได้
เรามาดูวิธีการคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิตกันครับ เพื่อที่จะได้ทราบว่าดอกเบี้ยคิดกันอย่างไร ทำไมถึงแพงจัง
ส่วนใหญ่ผู้ใช้บัตรเครดิต มักคิดว่าดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจากยอดที่เหลือจากการชำระขั้นต่ำ และคิดว่าดอกเบี้ยเริ่มถูกคำนวณจากวันครบกำหนดชำระ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างมากเลยนะครับ เพราะดอกเบี้ยจากการชำระยอดค่าใช้จ่ายแบบไม่เต็มจำนวนจะถูกแบ่งคำนวณเป็นสองส่วน คือ
1) ดอกเบี้ยส่วนแรก: 20% คิดจากยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตั้งแต่วันที่สรุปยอดรายการ จนถึงวันก่อนที่ธนาคารได้รับชำระเงินขั้นต่ำ (ทั้งนี้ ธนาคารหรือผู้ประกอบการบางราย อาจนับจำนวนวันจากวันที่เกิดรายการนั้น ๆ)
2) ดอกเบี้ยส่วนที่สอง: 20% คิดจากยอดเงินต้นคงเหลือ ตั้งแต่วันที่ทำการชำระขั้นต่ำจนถึงวันสรุปยอดค่าใช้จ่ายเดือนถัดไป
นอกจากนี้หากเพื่อนๆ ชำระหนี้บัตรเครดิตไม่ถึงจำนวนเงินขั้นต่ำที่ทางผู้ออกบัตรได้กำหนดไว้ ก็จะโดนเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเมื่อชำระหนี้ไม่ถึงขั้นต่ำ (Underpayment Fees) อีกด้วยนะครับ
จากการคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่ผมยกมาอธิบายให้เพื่อนๆ คงจะเห็นว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตค่อนข้างจะโหดทีเดียวเลยใช่ไหมครับ วันนี้ผมจึงอยากแนะนำเคล็ดลับการคุมดอกเบี้ยบัตรเครดิตให้อยู่หมัด ไม่ปล่อยให้ดอกเบี้ยบัตรเครดิตมาทำร้ายเราได้ ดังนี้ครับ
• เพื่อนๆ ควรชำระยอดค่าใช้จ่ายบัตรเครดิตให้เต็มจำนวน และตรงเวลาทุกครั้ง เพื่อไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ดอกเบี้ยที่สะสมไปทุกๆ รอบบิล จะส่งผลให้เป็นเกิดหนี้ก้อนใหญ่ในท้ายที่สุดจนไม่สามารถจัดการชำระได้
• หากเพื่อนๆ ไม่สามารถชำระเต็มจำนวนได้ ให้เลือกชำระขั้นต่ำ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะทำให้ถูกเก็บค่าธรรมเนียมในการติดตามทวงถาม นอกจากนั้นหากผู้ใช้ขาดชำระติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน อาจถูกตัดสิทธิ์การใช้บัตรและถูกฟ้องร้องได้ครับ
• เลือกใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเฉพาะในเรื่องที่จำเป็นเพื่อไม่ให้มีภาระหนี้มากเกินความสามารถที่จะจ่าย เช่น ค่าน้ำมันเดินทางไปทำงาน ค่ารักษาพยาบาล ค่าสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ
• ควรชำระเงินหนี้ขั้นต่ำให้มากที่สุด เพราะยิ่งชำระมากเท่าไหร่ ดอกเบี้ยในส่วนที่สองก็จะลดลงมากตามไปด้วยนะครับ
• ควรกันเงินสดไว้หลังการใช้บัตรทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีเงินเพียงพอสำหรับการชำระเต็มจำนวน
• หลีกเลี่ยงการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า เพราะถ้าเบิกถอนเงินสดด้วยบัตรเครดิต จะถูกคิดดอกเบี้ยฯ ตั้งแต่วันที่เบิกถอนเงินออกมา และจะต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก 3 % ของจำนวนเงินสดที่เบิกถอนและภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งคิดจากยอดค่าธรรมเนียมการเบิกถอนด้วยครับ
• ควรใช้บัตรเครดิตที่มีโปรโมชัน สะสมแต้ม ส่วนลด ผ่อน 0%
• ไม่ควรรูดซื้อสินค้าเกินกว่าเงินเดือนที่ได้รับ ข้อนี้สำคัญมากนะครับ
• ทำบัญชีรายจ่ายบัตรเครดิตในแต่ละเดือน เพื่อตรวจสอบว่าเราไม่ใช้บัตรเครดิตเกินรายรับ
• รักษาดอกเบี้ยให้อยู่ในอัตราคงที่ โดยจ่ายยอดชำระขั้นต่ำเป็นอย่างน้อยทุกๆ เดือน
• ตรวจสอบใบเรียกเก็บเงินประจำเดือนของบัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรายการใช้จ่ายใดๆ ที่ผิดพลาดไปครับ
• เลือกใช้บัตรเครดิตที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด
ทุกวันนี้สถาบันการเงินต่าง ๆ ได้ออกโปรโมชันบัตรเครดิตมากมาย เพื่อนๆ คงสับสนว่าจะเลือกใช้บัตรเครดิตไหนดีให้เหมาะกับตัวเรา ผมจึงขอแนะนำให้เพื่อนเข้าไปศึกษาหาข้อมูลบัตรเครดิตจากเว็บนี้ http://www.krungsricard.com/kccstatic/th/index.html ซึ่งเป็นบัตรเครดิตของธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่มีโปรโมชั่นให้เลือกมากมายเลยครับ แค่นี้เราก็จะสามารถจัดการกับดอกเบี้ยบัตรเครดิตให้อยู่หมัดแล้ว หรือจะศึกษาประเภทบัตรต่างๆ ก็แวะเข้าไปดูได้ที่ https://www.krungsri.com/ นะครับ จะได้ไม่โดยบัตรหนีบแบบในภาพด้านล่างนี้ คิกๆ
หมายเหตุ:
ขอขอบคุณบทความนี้จากทางธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่จะช่วยให้ผู้ใช้บัตรและผู้ออกบัตรมีความสุขร่วมกันได้อย่างยาวนานแสนนานครับ