วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ประเมินค่ามิได้


เป็นที่ทราบกันดีว่านักลงทุนแนลเม้นมูลค่าของกิจการนั้นมีความสามารถพิเศษที่นำมาใช้ในการลงทุนและกำไรบ่อยๆ ก็คือความสามารถในการประเมินมูลค่าของกิจการนั่นเอง ถ้าถามว่าเราประเมินมูลค่าของกิจการได้จากอะไรส่วนมากแล้วก็ประเมินจาก
  • กำไร
  • สินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น
  • หนี้สินที่น้อยลง
  • การตลาด/ยอดขายที่ดีขึ้น
  • เงินปันผลจ่าย, เงินสดที่สร้างได้
อย่างไรก็ตามก็ไม่ใช่หมายความว่านักลงทุนแบบเน้นมูลค่าทุกคนจะสามารถประเมินมูลค่าของบริษัทได้ทุกบริษัท บางคนก็ประเมินได้บางบริษัท บางคนประเมินได้หลายบริษัทหน่อย แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกรณีแรกเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามก็มีบางบริษัทที่มีนักลงทุนบางคนคิดว่าสามารถประเมินมูลค่าได้ทั้งที่จริงๆแล้วมีความเสี่ยงสูงมากในการหามูลค่าที่แท้จริงของบริษัทเรานั้นบริษัทในลักษณะดังกล่าวนี้ก็เช่น
  • มีลูกค้าไม่แน่นอน
  • มีอนาคตของยอดขายไม่แน่นอน (เช่น สินค้าและบริการขึ้นกับแฟชั่นมากเกินไป)
  • มีรายได้ขึ้นกับกฏหมายและการเมืองมากเกินไป
  • มีผู้บริหารที่ไม่โปร่งใสหรือคดโกง (เช่นตกแต่งบัญชีหรือถ่ายเงินออกไปสู่กระเป๋าตัวเอง)
คงต้องย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า หัวใจของการเป็นนักลงทุนแบบเน้นมูลค่าที่สำคัญที่สุดก็คือความสามารถในการประเมินกำไรที่ธุรกิจสามารถทำได้ (และ/หรือ เงินสดที่สามารถสร้างขึ้นได้) ซึ่งจะตามมาด้วยการเพิ่มพูนของสินทรัพย์ และ/หรือ การลดลงของหนี้สิน ถ้ามีสิ่งรบกวนต่างๆดังกล่าวด้านบนแล้วการประเมินมูลค่าก็สามารถผิดไปได้มาก (ยกเว้นบางท่าน บางกรณี ที่ทราบเรื่องจริงที่ตลาดไม่ทราบ หรือวิตก panic ไปเอง ทำให้ยังสามารถประเมินค่าได้ถูกต้องอยู่) ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หรือหนีให้ห่าง ปล่อยให้คนที่เขารู้ ที่เขาสามารถประเมินค่าได้จริงๆ ลงทุนกันไป ตัวเราเองอย่าไปยุ่งด้วยก็น่าจะดีกว่า และสบายใจกว่าครับ