วันเสาร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2561

All time high!


เปิดปีใหม่ 2561 มาด้วยความแปลกใจ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ทยอยปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ประมาณหนึ่งถึงสองเดือนสุดท้ายของปี 2560 เมื่อผ่านพ้นปีเก่าไป เริ่มต้นปีใหม่ได้ไม่กี่วันดัชนีทะยานพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง จนปิดที่ 1,795.45 จุด +4.43 จุดจากวันพฤหัสบดี เมื่อวันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2561 นับว่าสูงที่สุดในรอบ 24 ปีที่ดัชนีเคยทำจุดสูงสุดไว้ที่ 1753.73 จุดเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2537

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ นักลงทุนต่างชาติและรายย่อยเป็นฝ่ายขายหุ้นสุทธิออกมาเรื่อยๆ ในขณะที่กองทุนเป็นฝ่ายซื้อสุทธิมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา (ส่วนพร้อพเทรดนั้นคงติดชึ่งซื้อๆ ขายๆ ทำกำไรไปตามจังหวะ จะคาดหวังเดาเป็นแนวทางอะไรไม่ได้มานานแล้ว แต่ก็มีผลกับดัชนีไปเป็นวันๆ) ทำให้น่าสนใจว่า จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ใครจะเป็นฝ่ายขายหุ้นออกมาก่อนแล้วทำกำไรได้ไป (อย่าลืมว่าเดี๋ยวนี้มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เก็งกำไรในขาลงได้ด้วย แต่ก็ต้องมีผู้ไม่เห็นด้วยจับคู่กัน)

เท่าที่สำรวจกับเพื่อนหลายคน ได้รับการบ่นคล้ายกันว่า ดัชนีขึ้นแต่หุ้นในพอร์ตไม่ไปไหน บางคนบอกว่าลงด้วยซ้ำก็มี เลยลองหันไปดูบรรดาหุ้นที่ขึ้นๆ กันมาคงพอเห็นได้ว่า
  • กลุ่ม ธนาคาร รายใหญ่เหมือนขึ้นมาเรื่อยๆ จน(อาจจะดูเหมือนว่า)สุดแล้ว มีธนาคารเล็กที่ยังขยับต่อได้บ้าง
  • หุ้นการบิน ยังหักหัวไม่ขึ้น หุ้นเรือ ยังวนๆ ที่เดิม อสังหายังไม่ดี
  • ที่คู่กันกับสายการบินคือหุ้นท่าอากาศยาน ที่ดูยังแรงต่อเนื่อง คำถามคือ มูลค่าที่เหมาะสม (เมื่อรวมข่าวต่างๆ แล้ว) ควรเป็นเท่าไร ราคานี้แพงไปหรือไม่ หรือยังถูกอยู่
  • ก่อสร้าง รับเหมาดูจะไม่กระเตื้องขึ้นอย่างชัดเจนเท่าไร
  • เหลือหุ้นเล็กๆ ที่ถ้าขึ้นเมื่อไร ตลาดจะ “เชื่อกันว่า” หมดรอบ (ซึ่งในกรณีที่เกิดตอนนี้ผมคิดว่าจริง เพราะถ้าประเมินสภาพการณ์การค้าขายในปัจจุบัน ตัวเลขเฉียด 1,800 นี้ดูสูงมากจริงๆ)
ทำอย่างไรต่อ

สำหรับผู้ที่สะสมหุ้นไว้ก่อนหน้านี้และขายทำกำไรไปบ้างแล้วก็คงไม่ต้องเป็นห่วง  สำหรับคนที่ยังไม่ได้ขายทำกำไรเมื่อได้กำไรแล้วและราคาหุ้นมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยน้อยลงมากก็อาจจะเป็นช่วงที่ดีที่จะได้พิจารณาขายทำกำไรออกไปบ้าง  คำถามสำคัญกว่านั้นก็คือขายแล้วทำอย่างไรต่อหรือถ้าตอนนี้ไม่มีหุ้นอยู่ทำอย่างไรความเห็นส่วนตัวของผมเป็นแบบนี้นะครับ
  1. มองหากิจการที่ดี หุ้นจ่ายปันผลสูงสม่ำเสมอ (6%+) และบริษัทยังโตได้  และมี fair price สูงกว่าปัจจุบันพอควร (มี MOS พอสมควร)
  2. หุ้นใน (1) ต้องเป็นพวกที่มีราคาไม่ขึ้นตามชาวบ้านเขาในช่วงที่ดัชนีขึ้นมาสูงมากในระยะหลังๆ นี้
  3. รอครับ ร้องเพลงรอสักหน่อย คือรอดัชนีลง ทีนี้ หุ้นที่เรามองไว้ อาจจะปรับราคาลงตามน้ำที่ลดลง ตรงนี้ถึงเป็นโอกาสสะสม (นั่นคือ เราจะได้อัตราปันผลดีกว่าที่มองไว้ด้วย เพราะทุนที่ต่ำลง)
  4. ถ้ามือซนทนไม่ไหวจริงๆ เห็นหุ้นขึ้นแบบนี้ จะซื้อเก็งขาดทุนไว้สักหน่อยก็ไม่ว่ากัน (ใช่แล้วครับผ่านไม่ผิดและผมก็เขียนไม่ผิดด้วยก็คือเก็งขาดทุน นั่นหมายความว่าตั้งเป้าเอาไว้เลยว่าขาดทุนกี่บาทถึงจะขายตัดทิ้งไป) แล้วก็เฝ้ามันมากๆ หน่อย
น้ำขึ้น อะไรๆ ก็ลอยขึ้นมาหมด แต่นี่เป็นน้ำที่มีคลื่นด้วย ยอดคลื่นบางยอดอาจจะสูงผิดปกติ ประเด็นอยู่ที่ว่า มีความสมเหตุสมผลใดไหมที่น้ำนั้นจะอยู่กับเราได้อย่างมั่นคง ต้องระวังให้มาก ขอให้ทุกท่านไม่โลภ และโชคดีมีความสุขครับ